6 ปัญหาหลักชวนเจ๊งกับธุรกิจออนไลน์

6 ปัญหาหลักชวนเจ๊งกับธุรกิจออนไลน์ คือ

1.     คู่แข่งและตลาดมีอยู่มาก รวมถึงการแข่งขันระหว่างธุรกิจค้าปลีกและผู้ผลิตสินค้า

ð คุณรู้หรือไม่ว่า : 60% ของร้านค้าออนไลน์ พบว่าสินค้าตนเองไม่แตกต่างจากคู่แข่ง เนื่องจากซื้อสินค้าจากแหล่งเดียวกันถึง 44% และไม่สามารถสั่งผลิตสินค้าแยกได้ เพราะไม่คุ้มค่าการผลิตถึง 16%

เนื่องจาก ปัจจุบันนับว่าเป็นยุคทองของการขายของออนไลน์อย่างแท้จริง โดยพบว่ามีร้านออนไลน์ขายบน Shopee, Lazada, JD.Com มีมากกว่า 2 แสนราย และ พบมีอีกมากกว่า 300,000 ร้านค้าที่ค้าขายบนโซเชียลคอมเมิร์ซเช่น Facebook, LINE และ Instagram

ดังนั้น จึงทำให้เกิดการแข่งขันในด้านของ ราคาสินค้ากันอย่างหนักหน่วง จึงส่งผลให้ผู้ที่มีทุนน้อยหรือผู้ที่ทนแรงเสียดของวงการธุรกิจออนไลน์ไม่ไหวต้องล้มเลิกกิจการกันไปมากมาย

วิธีแก้ปัญหา: หากคุณไม่อยากเป็นอย่างนั้น สิ่งที่คุณควรทำคือ

1.      เน้นกลยุทธ์การตลาดสร้างความแตกต่างให้กับสินค้า เช่น

-     หาจุดแข็งของสินค้าและตลาดที่เหมาะกับสินค้าคุณ เช่น สินค้า hand-made, สินค้า rare item, ฯลฯ

-     คิดสินค้าให้แตกต่าง สร้างแบรนด์ตนเอง โดยหา OEM มาช่วยผลิต (OEM: Original Equipment Manufacturer คือผู้รับจ้างผลิตสินค้าให้บริษัทที่จะไปขายในแบรนด์ตัวเอง) ในปริมาณที่ไม่มากเกินไป ซึ่งแนวทางนี้จะเป็นจุดเริ่มต้นในการทำให้ธุรกิจของคุณโตขึ้นอย่างยั่งยืน

-     ดึงดูดลูกค้าใหม่ด้วย Service Mind ต้องมีเพื่อให้ลูกค้าทุกคนที่ซื้อสินค้าของร้านคุณรู้สึกเป็นกันเองและพึงพอใจกับสินค้าที่ได้จ่ายเงินไปให้มากที่สุด

2.     หันไปให้ความสำคัญกับโรงงานผู้ผลิตที่ไม่ขายสินค้าให้ลูกค้าโดยตรง โดยการร่างสัญญาตั้งแต่ตอนเริ่มทำธุรกิจกัน หรือขายในปริมาณน้อยขายสินค้าในราคาที่ถูกลง หรือมีการขายร่วมโปรโมชั่นต่าง ๆ เพื่อทำให้เกิดการแข้งขันในตลาดออนไลน์ลดลง อย่างไรก็ตาม วิธีนี้อาจะใช้ไม่ได้กับผู้ผลิตทุกราย

3.     เจาะตลาดใหม่ๆ ที่มีการแข่งขันน้อยกว่า

2.     โฆษณาทีไร ยอดขายไม่ปัง

ð คุณรู้หรือไม่ว่า : ร้านค้าออนไลน์ 23% มองว่าการโฆษณาทางออนไลน์ที่ลงทุนไปได้ผลไม่เป็นไปตามที่คาดหวัง เนื่องจากไม่ได้ยอดขายสินค้ากลับมา และไม่ได้สร้างการรับรู้ของร้านค้าให้มากขึ้น

พบว่า ปัจจุบันแบรนด์บางแบรนด์ที่ทำโฆษณากว่า 10 รูปแบบเพื่อโปรโมตสินค้าแค่ตัวเดียว หรือบางแบรนด์ก็เปลี่ยนแปลงวิธีการสื่อสารด้านการขายให้น่าติดตามด้วยการออกแบบเป็นซีรี่ส์ หรือวีดิโอที่มีความบันเทิง

สำหรับเทรน Digital Advertising ในปัจจุบันจะยึดเอาความหลากหลาย ความเร็วในการทำงาน และการทำให้โดนใจคนเฉพาะกลุ่มมากขึ้น หรือให้เข้าใจง่าย ๆ คือ เจาะกลุ่มทางการตลาดให้ชัดเจนยิ่งกว่าเดิม

ดังนั้น การทำ Digital Advertising ในรูปแบบ Marketing Automation, Video Marketing, CRM (Customer Relationship Management) และ Podcast หรือ Live Commerce หรือการขายของผ่าน Live จึงเป็นเทรนที่มาแรงมากในปัจจุบัน

วิธีแก้ปัญหา: หากคุณไม่อยากเสียเงินค่าโฆษณาเปล่าๆ ลองดูวิธีดังต่อไปนี้

1.      วิเคราะห์และทำความรู้จักลูกค้าของตนเองอย่างลึกซึ้งก่อน เช่น เพศ อายุ อาชีพ สถานที่ รวมถึงความสนใจและรูปแบบการใช้ชีวิต (Lifestyle) ของลูกค้า ซึ่งการที่ผู้ประกอบการทราบถึงกลุ่มเป้าหมายที่ชัดเจนนั้น จะทำให้การโฆษณามีประสิทธิภาพมากขึ้น และต้นทุนต่ำลง

2.     ลองขายของออนไลน์ผ่าน Live สด ซึ่งจะสร้างจุดต่างและความสนุกสนานให้ร้านค้าของตัวเองมากขึ้น ซึ่งปัจจุบันมีหลาย ๆ แบรนด์ที่หันมาจับช่องทาง Live จนประสบความสำเร็จ เช่น Live รายวันของ Shopee ที่จะมาแจกโค้ดโปรโมชั่นต่าง ๆ

3.     การดึงเอา Micro Influencer หรือ ผู้ที่มีอิทธิพลกับคนเฉพาะกลุ่ม มาช่วยทำหน้าที่โปรโมท หรือสื่อสาร ซึ่งจะช่วยทำให้ภาพลักษณ์ ความน่าเชื่อถือของแบรนด์ดีขึ้น

3.     บัญชี-การเงินที่แสนวุ่นวาย

ð คุณรู้ไม่ว่า: 61% ร้านออนไลน์ต้องการเงินทุนที่เพียงพอในการเข้าร่วมเทศกาลเซลล์ครั้งใหญ่ที่ทางแพลตฟอร์มจัดขึ้น ซึ่งถือเป็น ‘ช่วงเวลาทองคำ’ ที่ร้านค้าออนไลน์จะสามารถเพิ่มยอดขายได้มากถึง 20-100 เท่า โดยร้านค้าต้องการเงินทุนดังกล่าวไปใช้เพื่อสต็อกสินค้า การซื้อโฆษณา และค่าจ้างโอทีของพนักงานเฉพาะช่วงเทศกาลดังกล่าว

ð อีกหนึ่งปัญหาของธุรกิจออนไลน์คือ ต้นทุนทางการเงินที่สูง เนื่องจากแหล่งเงินทุนหลักที่แสนแพง

82% บัตรเครดิต

78% เงินเก็บสำรอง

74% สินเชื่อบุคคล/ บัตรกดเงินสด

26% ยืมเงินครอบครัว / เพื่อน

       ดังนั้น การทำโปรโมชั่นต่างๆ ไม่ว่าจะ เป็น ลดราคาสินค้า หรือ แถมสินค้า เพื่อดึงดูดลูกค้าในช่วงเทศกาลเซลล์ครั้งใหญ่ที่ทางแพลตฟอร์มจัดขึ้น อาจจะไม่คุ้มกับต้นทุนทางการเงินที่ แสนแพง จาก แหล่งเงินทุนดังกล่าว และ อาจจะนำพาธุรกิจให้ไปไม่รอด ซึ่งบางคนถ้าไหวตัวทันก็เลิกกิจการซะก่อนที่จะเจ็บตัวและเข้าเนื้อไปมากกว่านี้ แต่สำหรับบางคนที่ฝืนดันทุรังโดยไม่รู้จุดที่ควรแก้ก็อาจจะเป็นการสร้างหนี้ก้อนโตขึ้นมาโดยไม่รู้ตัวก็ได้

วิธีแก้ปัญหา: Rabbit Account มีวิธีแก้ปัญหาการเงินง่ายๆ ดังนี้

1.             การวางแผนการเงินที่ดี และเตรียมเงินสำรองสำหรับร่วมเทศกาลเซลล์ครั้งสำคัญ เพื่อไม่ให้พลาดโอกาสทางธุรกิจ โดยต้องคำนึงถึงแหล่งที่มาและอัตราดอกเบี้ยของเงินทุนสำรองนั้นๆ ด้วย

ทั้งนี้ การกู้สินเชื่อในนามของบริษัทจำกัด เพื่อเป็นเงินทุนสำรอง หรือ เพื่อขยายร้านค้าออนไลน์ของคุณ ก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่น่าสนใจ เนื่องจากการกู้สินเชื่อนั้นมีดอกเบี้ยที่ถูกกว่าดอกเบี้ยบัตรเครดิต/ บัตรกดเงินสด/ สินเชื่อบุคคล อีกทั้ง ยังไม่ต้องลำบากใจยืมเงินครอบครัว/เพื่อน อีกด้วย

2.             การจัดการงบประมาณของธุรกิจ โดยการทำรายรับ-รายจ่ายอัพเดทแบบ real-time เพื่อให้เรารู้ถึงตัวเลขของธุรกิจ ซึ่งการจัดทำงบประมาณต่างๆ เช่น รายรับ, ต้นทุนสินค้า และการประมาณการกระแสเงินสดในร้านค้า จะช่วยให้คุณสามารถจัดการและบริหารงบประมาณที่มีอยู่ให้เกิดประโยชน์สูงสุด รวมถึงสามารถช่วยให้คุณอุดรูรั่วของธุรกิจได้ หากร้านค้าไหนสนใจสามารถติดต่อ Rabbit Account เพื่อขอคำปรึกษาได้เลย

4.    ส่งของให้ลูกค้ายังต้องลุ้น

ð รู้หรือไม่ว่า : ร้านค้าออนไลน์ถึง 84% เคยประสบปัญหาในการจัดส่งสินค้า อาทิ สินค้าเสียหาย ส่งสินค้าล่าช้า ส่งสินค้าผิดที่ ลูกค้าปฏิเสธการรับสินค้า หรือลูกค้าคืนสินค้าหลังจากได้รับสินค้าแล้ว ซึ่งปัญหาเหล่านี้เกิดขึ้นได้ตั้งแต่ กระบวนการตรวจสอบข้อมูลก่อนการส่ง การเตรียมสินค้าเพื่อจัดส่ง ระหว่างการขนส่ง ไปจนถึงกระบวนการตรวจสอบ และรับสินค้า

34% สินค้าส่งผิดที่

47% ลูกค้าปฏิเสธรับสินค้า กรณีจ่ายเงินปลายทาง

62% สินค้าเสียหายเมื่อถึงมือลูกค้า

38% พนักงานส่งสินค้าไม่สุภาพ

47% ลูกค้าส่งคืนสินค้า หลังจากรับสินค้าแล้ว

63% สินค้าส่งถึงลูกค้าล่าช้า

แม้ว่า ราคา จะเป็นปัจจัยอันดับต้นๆ ที่ลูกค้าส่วนใหญ่ใช้เปรียบเทียบในการตัดสินใจซื้อสินค้า อย่างไรก็ตาม ร้านค้าออนไลน์ขนาดเล็ก อาจจะถูกร้านค้าออนไลน์ขนาดกลางและขนาดใหญ่ตัดราคาได้ง่าย และยังสามารถจัดส่งสินค้าฟรีได้ เนื่องจากมีระบบการขนส่ง และคลังสินค้าเป็นของตัวเองกระจายอยู่ทั่วประเทศ รวมถึงมีปริมาณการส่งที่มากกว่า ทำให้ส่งของได้ถูกกว่าและเร็วกว่า

วิธีแก้ปัญหา: เรามีวิธีแก้ปัญหาง่ายๆ เรื่องการส่งสินค้าให้ร้านค้าออนไลน์คือ

1.      การทำระบบบันทึกข้อมูลการขนส่งสินค้าของลูกค้า เช่น หมายเลข Tracking รวมถึงการแปะรหัส ตรวจสอบสินค้าก่อนการส่ง และดูแลการบรรจุสินค้าอย่างแน่นหนา

2.     เลือกบริษัทขนส่งที่มีบริการดี น่าเชื่อถือ ก็จะช่วยลดปัญหาความไม่พึงพอใจของลูกค้าได้

3.     ลองเลือกใช้บริการ Pick & pack เพื่อลดขั้นตอนการทำงานบางส่วนออกไป เพื่อจะมีเวลาในการบริการลูกค้ามากขึ้น

5.     คลังสินค้าชวนปวดหัว

ð คุณรู้หรือไม่ :

89% ของร้านค้าออนไลน์ มีการขายสินค้าผ่านทางออฟไลน์ด้วย และทั้งหมดของกลุ่มนี้ ขายสินค้าออนไลน์มากกว่า 1 แพลตฟอร์ม

37% มีปัญหาการบริหารสต็อก ทำให้สูญเสียโอกาสการขาย เสียพื้นที่โกดังเก็บของ เพิ่มต้นทุน และเงินทุนจม

ปัญหาสินค้าขาดสต็อค หรือ จำนวนสินค้าในสต็อคไม่ตรงตามที่มีอยู่จริงนี้ที่มักจะเกิดขึ้นบ่อยๆ กับร้านออนไลน์ที่มีเจ้าของร้านดูแลทุกอย่างเพียงคนเดียว ทำให้ไม่มีเวลาตรวจนับสต๊อก หรือร้านที่มีทีมงานหลายคน แต่ไม่มีการสื่อสารระหว่างทีมที่ดี ทำให้ฝ่ายขายขายของเพลินจนลืมนับสต๊อก หรืออาจเกิดขึ้นได้อีกเนื่องมาจากฝ่ายจัดซื้อที่ประเมินสถานการณ์ตลาดพลาดไป

วิธีแก้ปัญหา: วิธีแก้ปัญหาจากเรื่องใหญ่ให้เป็นเรื่องเล็กได้ไม่ยาก

1.      ใช้ระบบบริหารสต๊อกออนไลน์ที่มีการอัพเดทสินค้าคงเหลือในสต๊อกอยู่ตลอดเวลา ทำให้เจ้าของกิจการและทีมงานทุกส่วนเห็นตรงกันว่าขณะนี้มีของเหลืออยู่ในสต๊อกเท่าไหร่ รวมถึงสามารถวางแผนในการจัดการต่อไป

2.     สำหรับการประเมินสถานการณ์ตลาดผิดพลาดของฝ่ายจัดซื้อ ก็สามารถแก้ปัญหาได้ง่ายๆ โดยการจัดเก็บสถิติยอดขายรายเดือน อาจทำดอกจันทร์ไว้ในเดือนที่มีเทศกาลพิเศษ ซึ่งจะส่งผลต่อความต้องการของลูกค้า ฉะนั้น เมื่อเราดูแนวโน้มความต้องการของตลาดผ่านการอ่านกราฟในรอบ  1 เดือน  3 เดือน 6 เดือน และหนึ่งปีแล้ว ฝ่ายจัดซื้อก็จะสามารถคำนวณความต้องการของตลาดได้แม่นยำขึ้น ทำให้สั่งซื้อสินค้าเข้ามากักตุนในสต๊อกได้ในปริมาณที่เหมาะสม เงินทุนไม่จม

ในส่วนนี้ ทาง Rabbit Account มีระบบการจัดการ Stock สินค้าแบบ ออนไลน์ ทำให้ทราบถึงสถานะของ สินค้าต่างๆ แบบ real-time รวมถึงสามารถดูแนวโน้มในการขายสินค้าในประเภทต่างๆ และ วางแผนการสั่งซื้อสินค้าให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาดได้แม่นยำขึ้น

6.    เสี่ยงถูกแฮกข้อมูล

ð คุณรู้หรือไม่ว่า : ข้อมูลส่วนตัวของลูกค้าอาจถูกล้วง เพื่อนำไปใช้ประโยชน์ในทางที่มิชอบเช่น การส่งสแปม การนำไปสวมรอย หรือการทำตลาดที่ไม่พึงประสงค์

ð เมื่อตัดสินใจทำธุรกิจผ่านโลกออนไลน์ คุณต้องรอบรู้เรื่องภัยคุกคามต่าง ๆ ที่จะตามมาด้วยเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นมัลแวร์ ฟิชชิง การแฮก หรือสแปมเมล พร้อมหาวิธีป้องกันภัยคุกคามเหล่านี้ และตรวจสอบให้แน่ใจว่า คุณได้อัปเดตระบบปฏิบัติการของแพลตฟอร์มอย่างสม่ำเสมอ รวมทั้งใช้ SSL (Secure Sockets Layer) ที่แข็งแกร่งพอ

อีกหนึ่งฝันร้ายของธุรกิจออนไลน์คือ การถูกขโมยข้อมูลสำคัญของลูกค้าโดยพวกมิจฉาชีพบนโลกไซเบอร์ โดยการปล่อย Spam และไวรัสต่าง ๆ เข้ามาในระบบและเอาข้อมูลลูกค้าที่สำคัญไป เช่น เบอร์โทรศัพท์ลูกค้า เลขและรหัสบัตรเครดิต เป็นต้น

วิธีแก้ปัญหา:

1.      มีการจัดการ Server เป็นอย่างดี เลี่ยงการใช้ FTP (File Transfer Protocol คือ การถ่ายโอนไฟล์หรือข้อมูลผ่านอินเตอร์เน็ต) ร่วมกันในการจัดส่งไฟล์ มีการอัพเดตตะกร้าสินค้าอยู่เสมอ จะทำให้ลดความเสี่ยงที่ข้อมูลจะถูกขโมย

2.     ระบบการจัดการข้อมูลเว็บไซต์ควรมีการเก็บใน Database และฝ่ายดูแลเว็บไซต์ควรสำรองข้อมูลเป็นระยะๆ

ทั้งนี้ Rabbit Account ขอเป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับร้านค้าออนไลน์ที่ต้องการระบบการจัดเก็บข้อมูลออนไลน์ที่มีความปลอดภัยสูง เช่นเดียวกับบริษัทขนาดใหญ่ รวมถึงมีการสำรองข้อมูลอัตโนมัติ เพื่อป้องกันข้อมูลสูญหาย และอีกทั้งยังสามารถกำหนดสิทธิในการเข้าถึงข้อมูลของแต่ละบุคคลในร้านค้าได้อีกด้วย