
ใบกำกับภาษี (Tax Invoice) คืออะไร?
ใบกำกับภาษี (Tax Invoice) คือ เอกสารที่แสดงรายละเอียดมูลค่าสินค้าหรือบริการ
และจำนวนภาษีที่เกิดจากการทำธุรกรรมครั้งนั้น ซึ่งเอกสารนี้ผู้ออกจะต้องเป็นผู้ประกอบการที่จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มกับกรมสรรพากร
ดังนั้น Tax Invoice จึงจัดเป็น 1 ในเอกสารในการคำนวณภาษีมูลค่าเพิ่มในแต่ละเดือนเพื่อยื่นแบบแสดงรายการ
ภ.พ. 30 และหลักฐานประกอบการบันทึกรายการบัญชีของกิจการ
e-Tax Invoice คืออะไร?
“e-Tax Invoice” หรือ
“ใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์” คือใบกํากับภาษีที่ปรับรูปแบบจากที่เคยเป็นกระดาษไปเป็นข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์
e-Tax Invoice (ใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์)
แตกต่างจากใบกำกับภาษีในรูปแบบเดิมตรงที่ e-Tax Invoice จะมีหมายเลขใบรับรองอิเล็กทรอนิกส์
(Digital Certificate) และลายมือชื่อดิจิทัล (Digital
Signature) เป็นเครื่องยืนยันตัวตนของผู้ออกใบกำกับภาษี (ผู้ขาย)
และรับรองถึงความถูกต้องของข้อมูล
ทั้งนี้
เอกสารที่ทำเป็นอิเล็กทรอนิกส์และต้องส่งสรรพากรไม่ได้มีแค่ใบกำกับภาษี
ยังมีเอกสารเหล่านี้ด้วย
1. ใบกำกับภาษี (Tax Invoice) ตามมาตรา 86/4 แห่งประมวลรัษฎากร
2. ใบเพิ่มหนี้ (Debit Note) ตามมาตรา 86/9 แห่งประมวลรัษฎากร
3. ใบลดหนี้ (Credit Note) ตามมาตรา 86/10 แห่งประมวลรัษฎากร
4. ใบรับ (Receipt) ตามมาตรา
105 ทวิ แห่งประมวลรัษฎากร
e-Tax Invoice หน้าตาเป็นอย่างไร
รายละเอียดเนื้อหาข้อมูลบนใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ก็จะเหมือนกับที่อยู่บนกระดาษ
แต่จะมีรายละเอียดเพิ่มเติมคือ
1. เป็นไฟล์อิเล็กทรอนิกส์ประเภท
1.1 .pdf (Portable Document Format)
1.2 .doc, .docx (Microsoft Word Document)
1.3 .xls, .xlsx (Microsoft Excel)
2.
1 ไฟล์ต้องมีขนาดไม่เกิน
3 MB
3.
ข้อมูลรายละเอียดที่อยู่ในไฟล์เอกสารจะต้องไม่ใช่รูปภาพ
ห้ามใช้การถ่ายภาพหรือการแปลงไฟล์จากเอกสารกระดาษให้เป็นข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์
4.
ต้องมีการลงลายเซ็นดิจิตอล
(Digital Signature) หรือประทับรับรองเวลา
(Time Stamp) ผ่านระบบ e-tax invoice by email เพื่อให้เอกสารนี้ถูกต้องตามกฎหมาย
และสามารถใช้ต่อสู้ในชั้นศาลในกรณีที่เกิดข้อพิพาท
ทั้งนี้วิธีการประทับรับรองนี้จะทำด้วยวิธีไหนขึ้นอยู่กับขนาดของธุรกิจที่จะกล่าวต่อไป
e-Tax Invoice มีประโยชน์อย่างไร ?
1.
สะดวกและง่ายขึ้นในการยื่นเอกสารประกอบ
ภ.พ. 30 ในแต่ละเดือน
2.
ลดภาระในการจัดเตรียมเอกสารเพื่อเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม
เพราะเมื่อกรมสรรพากรได้รับข้อมูลภาษีซื้อ-ภาษีขายทางอิเล็กทรอนิกส์ครบถ้วนแล้ว
ระบบจะจัดทำรายงานภาษีซื้อ-ภาษีขายได้โดยอัตโนมัติ (Electronic VAT Report)
3.
ลดต้นทุนในการจัดทำเอกสารใบกำกับภาษีและใบรับจากกระดาษ
ดังนี้
2.1 ลดการใช้กระดาษ บางบริษัทใช้แบบ copy
เป็นชุด ที่พิมพ์ด้วยเครื่องพิมพ์ Dot Matrix ต่อ
1 invoice ก็ 3-7
บาทแล้วแต่ปริมาณสำเนาที่ต้องใช้ บางบริษัทพิมพ์ใส่ A4
ราคาริมละประมาณ 80 บาท พิมพ์ 5 สำเนา
เท่ากับ 1 invoice เสียค่าใช้จ่ายประมาณ 1 บาท (80 / 500 * 6 = 0.96)
2.2 ลดการซองใส่เอกสาร ซึ่งบางครั้งอาจต้องติดแสตมป์เพื่อนำส่งเอกสารไปต่างจังหวัดหรือต่างประเทศ
2.3 ลดการใช้เครื่องพิมพ์
หมึกพิมพ์ รวมถึงค่าดูแลเครื่องพิมพ์
2.4 ค่าส่งเอกสาร โดยราคาเฉลี่ย
Outsource Messenger ในกรุงเทพ
อยู่ที่ 90 บาท
2.5 ค่าไฟในการพิมพ์เอกสาร
3. สะดวก ประหยัดพื้นที่ในการจัดเก็บเอกสาร
4. ช่วยอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ
5. ในแง่การดำเนินธุรกิจ
ถ้าเริ่มเป็นผู้ประกอบการที่ออก e-tax invoice แล้ว เราจะต่อยอดไปออกเอกสารอื่น
ๆ ที่เป็นอิเล็กทรอนิกส์ได้อีก เช่น PO, Invoice และอาจจะรวมไปถึงเอกสารสัญญา
ซึ่งการทำเช่นนี้จะทำให้ธุรกิจดำเนินได้อย่างรวดเร็วและแน่นอนขึ้น
สร้างโอกาสและรายได้ตามมา ทำให้การบริหารเงินสดในมือเป็นไปได้อย่างมีประสิทธิ์ภาพ
ใช้งาน e-Tax Invoice กับ Rabbit Account อย่างไร ?
ระบบ Rabbit Account คือโปรแกรมสำเร็จรูปในการจัดทำบัญชี หรือ ระบบ ERP ที่เชื่อมต่อกับ Service Provider ที่มีคุณสมบัติและหลักเกณฑ์ตามที่กรมสรรพากรกำหนด โดยสามารถจัดทำใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์และใบรับอิเล็กทรอนิกส์ ที่มีการลงลายมือชื่อดิจิทัลตามรูปแบบและเงื่อนไขที่กำหนด และนำส่งข้อมูลให้กรมสรรพากรอัตโนมัติในรูปแบบ XML File ตามข้อเสนอแนะมาตรฐานด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ และการสื่อสารที่จำเป็นต่อธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ ว่าด้วยข้อความอิเล็กทรอนิกส์ สำหรับการซื้อขายสินค้าและบริการ (ขมธอ.3-2560)
หากบริษัทฯ สนใจ e-Tax
invoice สามารถติดต่อขอรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
Facebook
Inbox : https://m.me/rabbitaccount
Line Id : @rabbitaccount
Live Chat : https://www.rabbitaccount.com
Tel: 084 053 5325 หรือ 083 555 5562

Rabbit Account
ครบทุกการจัดการ ให้คุณมากกว่าระบบบัญชีBlog: https://www.rabbitaccount.com/th/article
Facebook: http://facebook.com/rabbitaccount Register Free