อันนี้คือเหตุผลหนึ่งเลยล่ะครับ ว่าทำไมระบบ Rabbit Account ถึงต้องบังคับให้ลูกค้าต้องใส่ชื่อคู่ค้าเสมอเวลาทำใบจ่ายเงิน นั่นก็เพราะว่าการบันทึกยอดของคู่ค้าไว้จะมีประโยชน์ในระยะยาว
ลองนึกดูนะครับ สมมุติร้านของเราไปซื้อข้าวสาร 2 กระสอบที่ตลาด โดยซื้อก่อนแล้วค่อยจ่ายเงินอีก 15 วัน ซึ่งจริงๆแล้วร้านเราวุ่นวายมากๆเพราะไม่ได้ซื้อข้าวสารจากเจ้าเดียว แต่ยังมีน้ำแข็ง, เนื้อสัตว์, วัตถุดิบเครื่องปรุง
โดยหากท่านไม่ทำระบบบันทึกให้ดีๆล่ะก็ พอถึงเวลาชำระเงิน อาเจ๊กร้านข้าวสารมาทวงยอดเงินทีค้างชำระไว้ จะเกิดการถกเถียงกันโดยเปล่าประโยชน์ เช่นท่านอาจจะคิดว้เราจ่ายเงินเขาไปแล้วก็เป็นได้
ซึ่งปัญหาเหล่านี้จะหมดไป จากระบบจัดการคู่ค้า ประกอบกับท่านยังสามารถต่อรองเทอมการจ่ายเงินได้ง่ายขึ้นด้วย เพราะจะทำให้เรารู้ทั้งหมดว่ารายไหนบ้างที่เป็นคู่ค้าหลักของร้านเรา
มาถึงขั้นตอนการใช้งานกันล่ะครับ โดยเริ่มแรกไปที่แถบเมนูด้านซ้ายมือ>> รายชื่อคู่ค้า
กรณีที่ร้านค้าเปิดมานานแล้ว ปัญหาที่เจอเสมอๆคือ ขี้เกียจเขียนรายชื่อคู่ค้าใหม่ทั้งหมด อันแสนจะกินเวลา และน่าเบื่อมากๆ ซึ่งตรงนี้ท่านสามารถกดเลือก
ข้อ 1. เพิ่มด้วยไฟล์เอกสาร ได้เลยครับ และทำขั้นตอนเดียวสามารถ import ชื่อคู่ค้าจะหลักร้อย หรือหลักพัน ก็ง่ายๆใน 1 คลิ๊กเท่านั้นเอง
ข้อ 2. เพิ่ม โดยตรงนี้ไว้เพิ่มคู่ค้าทีละคน จะใส่แค่ชื่อ หรือจะใส่ทกอย่างเช่นที่อยู่, เบอร์โทรศัพท์ สามารถทำได้หมดภายในปุ่มนี้เลยครับ
ข้อ 3. เปิดใช้งาน ใช้ในกรณีที่คู่ค้าที่เราเลิกซื้อไปแล้ว และกำลังจะกลับมาทำธุรกิจกันอีกรอบ ก็กดเปิดเล๊ย เพื่อที่จะได้ไปโผล่ในบิลรายจ่าย
ข้อ 4. ปิดใช้งาน ใช้ในกรณีที่เราเลิกคบค้าสมาคมกับคู่ค้าคนนั้นๆแล้ว โดยหลังจากปิด เราจะไม่สามารถเลือกคู่ค้านั้นๆได้จากใบรายจ่ายอีกต่อไป
ถัดลงมาจะมีกล่อง 4 กล่องหลักในหน้านี้ซึ่งแสดงยอดรวมทั้งหมดที่เราเคยทำธุรกรรมด้วย ไม่ว่าจะจ่ายเงินหรือยังไม่ได้จ่ายก็จะแสดงทั้งก้อนในยอดรวมตรงนี้ เช่นตามตัวอย่างมียอดรวมเท่ากับ 2,090,001.52 บาท โดยแบ่งได้เป็นกล่องสีเขียวที่เราได้ชำระเงินไปแล้วจำนวน 1,960,703.23 บาท และยังไม่ได้ชำระเงิน หรือค้างจ่ายในกล่องสีส้ม จำนวน 129,298.29 บาท และสุดท้ายกล่องสีแดงร้อนเผ็ด แสดงยอดเกินเวลาที่ถึงกำหนดจ่ายแล้วแต่เรายังไม่ยอมไปจ่ายสักที จำนวน 114,460 บาท
ด้านล่าง 4 กล่องหลัก จะแสดงรายชื่อคู่ค้าทั้งหมดที่เราทำธุรกิจด้วย โดยสามารถเรียงลำดับที่จะแสดงได้ตามที่เราสนใจ เช่นจะเรียงตามยอดรวมการซื้อขาย คุณลูกค้าสามารถกดตรงหัวตารางยอดรวมการซื้อขายได้โดยตรงครับ ระบบจะทำการจัดลำดับยอดให้จากมากมาน้อย หรือจากน้อยมามากก็ได้เช่นกัน ตามสะดวกกันเลยครับ
หลังจากเราเห็นตามตัวอย่าง MAKRO มียอดรวมการซื้อขายจำนวน 4,061 บาท เราอยากจะเข้าไปดูว่าทำธุรกรรมวันไหนบ้าง ก็สามารถกดตรงปุ่มคำสั่งสีฟ้า ชื่อ รายละเอียด ได้ทันทีครับ โดยจะแสดงหน้าตามด้านล่าง
โดยท่านสามารถจัดอันดับตามความสนใจได้อีกเหมือนเดิมครับ และในระบบแสดงเลขที่ใบเสร็จไว้ให้ด้วย เช่น PV1701290003 หมายความว่าใบซื้อทำในวันที่ 29 มกราคม ปี 2017 และทำใบซื้อเป็นใบที่ 3 ของวัน ดังนั้นหากท่านต้องการกดเข้าไปดูว่าในบิลนี้ เราได้ซื้ออะไรไปบ้าง สามารถกดตรงเลขที่ใบเสร็จที่เราสนใจได้ทันทีครับ โดยระบบจะพาท่านไปยังหน้าใบรายจ่ายอีกที
มาถึงตรงนี้หลายๆท่านน่าจะเห็นถึงประโยชน์กันแล้วในการหาบิลอย่างง่ายดาย พร้อมทั้งไม่ลืมจ่ายเงินอีกต่อไป หากเป็นสมัยก่อนเราจดในสมุด กว่าจะเปิดแต่ละหน้าเพื่อหาบิลแต่ละครั้ง ทำได้ไม่ง่ายเลยใช่มั้ยครับ ประกอบกับถ้าเกิดน้ำท่วม หรือเก็บใบ Excel แล้วคอมท่านโดน Virus โจมตีคงแย่แน่ๆ ดังนั้นหวังว่าลูกค้าทุกท่านจะได้รับความสะดวกสบายอย่างมากที่สุดในการใช้ระบบ Rabbit Account และหมดปัญหาในการหาบิล หรือหมดปัญหาถกเถียงกับคู่ค้าตลอดไปครับ
Rabbit Account
ครบทุกการจัดการ ให้คุณมากกว่าระบบบัญชีBlog: https://www.rabbitaccount.com/th/article
Facebook: http://facebook.com/rabbitaccount สมัครใช้งานฟรี